Netnapa.net

ทัวร์ส่วนตัวยุโรป โดยคนไทยในเชค

โดยปกติ เราสามารถขับรถจากปราก ไปซัลบวร์กได้ด้วยไฮเวย์ จากปราก ไปทางใต้ ผ่านออสเตรีย ไปเมืองลินซ์ แล้วตรงไปซัลท์บวร์กต่ออีกแค่หนึ่งชั่วโมงด้วยทางไฮเวย์ตลอด รวมระยะเวลาทั้งหมดราวห้าชั่วโมงง

แต่โอ๊ตตต... สำหรับอิฉัน ขาไปซัลท์บวร์ก แม่บ้านวัยสิบเก้า ขับพาฉันไปเกือบเก้าชั่วโมงจากปราก ไปทะลุเกือบอิตาลี!!! อุแม่เจ้า เราไม่ได้ใช่ไฮเวย์ แต่กลับขับรถผ่านฟาร์มชนบท เส้นทางลดเลี้ยวไปในป่าเขา และบ้านนอกของออสเตรียยาวตลอดแปดชั่วโมงงง มาราธอนเสียสิ้น แบบไม่รู้จะสาธยายอย่างไรถูก!!!! กว่าจะถึงซัลบวร์ก เรื่องมันยาวววววจริงๆ

การไปซาลบวร์กเริ่มต้นจากโต๊ะบาบีคิวในสวนของบ้านเรา มาเร็กถามฉันว่า สุดสัปดาห์นี้อยากไปเที่ยวไหนนะ ตกลงเดรสเดน หรือออสเตรีย ฉันทำท่าตอบเหมือนเตรียมการณ์มาอย่างดีแล้วว่าไปออสเตรีย อยากไปซาลบวร์ก ทั้งที่ยังไม่แน่ใจ หรือเตรียมข้อมูลอะไรมาก่อน ไม่ได้มีแรงบันดาลใจอยากไป แต่ต้องไปเพื่อเก็บเรื่องราวเขียนหนังสือ

ซาลบวร์กเป็นเมืองที่จำเป็น เพราะถ้าฉันเขียนหนังสือออสเตรีย มันเป็นเมืองยอดฮิตของคนไทย ยังไงก็ขาดไม่ได้ 

มาเร็กถามว่า จะไปเมื่อไหร่

ฉันบอกว่า ออกเดินทางวันศุกร์ดีกว่าไปวันเสาร์

"งั้นก็พรุ่งนี้สิ"

"อ้าว จริงดิ นึกว่าวันมะรืนวันศุกร์"

"ไม่ใช่ วันนี้วันพฤหัสแล้ว พรุ่งนี้วันศุกร์ แล้วตกลงจะออกเดินทางกี่โมง"

ฉันเจอคำถามยิงเป็นชุดๆ ก็เคาะนิ้วเลือกไม่ถูก ไม่รู้จะเอาไงดี แต่ก็ตอบไปด้วยท่าทีเหมือนเตรียมการณ์มาแล้วทุกครั้งว่า

"อยากออกตอนเที่ยง รถจะได้ไม่ติด เพราะเย็นๆ วันศุกร์ รถติดแน่"

คุณชายรับทราบความประสงค์ฉันแล้ว ก็สั่งการณ์ให้แม่บ้านวัยรุ่น ที่เป็นผู้ช่วยฉันไปด้วย

ให้เตรียมตัวขับรถให้ฉันพรุ่งนี้ ซ้ำยังกำชับด้วยว่า "ให้ตามใจหริ่น หริ่นอยากทำอะไร ไปไหน อย่าขัดใจนะ" อะไรมันจะขนาดน๊านนน ฉันไม่ได้ขี้เอาแต่ใจตัวเองขนาดนั้นสักหน่อย (เรื่องมันเป็นอย่างไร แล้วคุณจะรู้ หึหึ) 

..... 

เราออกจากบ้านเที่ยงครึ่ง แวะเติมน้ำมันเต็มถังสิ้นเงินราวสองพันกว่าบาท ซึ่งสามารถวิ่งได้หกร้อยกว่ากิโล  ด้วยความงก หวงรถตัวเองของฉัน ซึ่งก็ไม่รู้จะหวงไปทำไม ฉันเลือกเดินทางด้วยรถแม่บ้าน เกียร์กระปุก รถตัวเอง เป็นไฮบริด ไม่ได้ใช้มาปีกว่าแล้ว... สุดยอด 

จากนั้น ก็ขับรถมุ่งไปทางใต้ของเช็ก เพื่อไปออกเขตชายแดน แถวๆ ใกล้เมืองบูเยโย วิสก้า หรือใกล้เมืองเที่ยวยอดฮิต เชสกี้ ครุมลอฟ ที่คนไทยก็ชอบมาเที่ยว กลายเป็นแพคเกจแฝด เชสกี้ ครุมลอฟ (เช็ก) ฮัลสตัทท์ (ออสเตรีย) ซาลบวร์ก เวียนนา (ออสเตรีย)

ทิวทัศน์บ้านนอกเช็ก จะเป็นแบบนี้ แนวราบ พาโนรามา เห็นภาพ ๑๘๐ องศา จะไม่ค่อยมีภูเขาลูกใหญ่ๆ สลับซับซ้อนมากนัก 

 ไม่เหมือนวิวนี้ที่ออสเตรีย เป็นประเทศที่มีภูเขาทั้งประเทศ วิวภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม และมีถนนคดเคี้ยวงามตา ความชันก็ไม่ถึงกลับเมารถ ไปได้เรื่อยๆ ไม่อันตราย ถ้าขับรถเก่ง 

เราจะเจอหมู่บ้านในหุบเขา และทิวเขาสูง ไปตลอดทาง ออสเตรียเป็นประเทศที่เหมาะแก่การขับรถเที่ยวมาก คนขับรถดี ทางดี วิวสวย  แต่ถ้าเป็นไฮเวย์ก็ไม่เห็นอะไรนัก 

บ่อยครั้งตลอดเส้นทาง วิวปลายตา จะเป็นทิวเขาสูง ตระหง่าน ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่มาก ของจริง ดูดีกว่าในภาพนะคะ 

ขับรถไล่ตามภูเขา เป็นอะไรที่ดูเพ้อฝันยิ่งใหญ่ดี ชอบ 

แล้วเราก็ผ่านช่วงไฮเวย์ เข้าสู่ช่วงธรรมชาติ หลายเส้นทาง มีลำธารขนานไปด้วย น้ำใสมาก น่าแวะลงเล่นน้ำจริงๆ  แลนสเคปสองข้างทาง ยังเป็นอะไรที่ดึงดูดตาได้ตลอดว่าออสเตรียเป็นประเทศที่ภูมิทัศน์สวยงาม ภูเขาไม่ไ่ด้ใหญ่มากไปหมด แต่มันสลับกับที่ราบทุ่ง ในระยะที่สายตาเรามองเห็นแล้วสวย ไม่ใช่ว่าใหญ่จนตาสองตา เก็บระยะไม่หมด ชอบความรู้สึกที่ได้เห็นวิวแบบนี้ค่ะ  

บางหมู่บ้านที่เราผ่าน ปลูกต้นไม้ประดับทั้งหมู่บ้าน เราเจอแบบนี้ประมาณสิบกว่าหมู่บ้าน อดไม่ได้ต้องแวะลงไปถ่ายรูป และชื่นช คนไทย น่าจะทำบ้างนะ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่ายๆ แค่ "ช่วยกันปลูกดอกไม้"  ให้เยอะๆ เอาแบบอิ่มตาไปเลย

ถึงตอนนี้ เราขับรถมาหกชั่วโมง ความจริงน่าจะถึงซาลบวร์กแล้ว แต่เรายังไม่เจอป้ายนำทางไปซาลบวร์กเลย  แม่บ้านของฉันเลยลงไปถามทาง เรางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อเขาบอกว่า อีกสามชั่วโมงก็ถึงซาลบวร์ก เป็นไปได้ไง ตั้งสามชั่่วโมง เรางงมาก แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร 

เมื่อเดินทาง ฉันเลือกไปด้วยชุดที่นิ่ม ใส่ง่าย ไม่รัดรูป สรุป คือ ชุดอยู่บ้านนั่นเอง รองเท้าเตะใส่ในบ้าน เพราะไม่เน้นถ่ายรูปแล้วสวย แต่เน้นเดินทางแล้วสบาย แต่แม่บ้านฉัน.... ชุด สี รองเท้าส้นสูง แมตช์กันตลอด ไปกับเธอนี่ เขานึกว่าฉันเป็นแม่บ้านเธอมากกว่านะ อิอิ  แต่ก็ดี ทำให้ฉันได้นางแบบไปด้วย ช่วยในการถ่ายภาพ 

เราจะเจอโบสก์ท้องถิ่นเล็กๆ ประจำหมู่บ้านแบบนี้ในออสเตรียเยอะมาก เป็นเสน่ห์ที่น่าถ่ายรูปและจดจำ ที่สำคัญ "น่ารัก"

ออสเตรียเป็นประเทศหนึ่งที่ร่ำรวย บ้านในชนบท ในทิวทัศน์ที่งาม จึงน่าชม แม้จะเป็นแค่ฟาร์ม ก็ยังดูดี  

เมื่อค่ำเริ่มมาถึง สองทุ่ม เราเริ่มกังวลกับเส้นทางที่ไม่มีเพื่อนร่วมทาง แต่ยังเห็นสายรุ้งอยู่ ช่วงสุดท้าย ก่อนที่จะเราจะเข้ารกเข้าพง ทำเอาใจฉันไม่ดี จนลืมกดชัตเตอร์ไปเลย และต้องล็อครถตลอดเวลา 

เราเริ่มเข้าเขตป่า และภูเขาสูง ทางวนไปมา เป็นวงกลม ตามภูเขา นานๆ จะมีบ้านแบบฟาร์มสักหลัง ไม่มีผู้คน เหมือนป่ากว้าง สมบูรณ์  แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตถนนดี เส้นทางแคบ วังเวง และไม่มีเพื่อนร่วมทาง เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง.... 

ความมืดเริ่มมาเยือน สองทุ่มกว่าแล้ว เราไม่รู้ว่าเราอยู่ไหน ลักษณะบ้าน เริ่มบ้านนอก มีเอกลักษณ์ขึ้นเรื่อยๆ 

สลับกับฟาร์มแบบธรรมชาติ

บางครั้งขึ้นเขาสูง

มันเป็นภาพที่สงบสวยงาม

ถ้าเรารู้ว่าเราอยู่ที่ไหน หรือเราตั้งใจมาทีนี่ เราคงไม่กลัว

แต่เพราะเราไม่รู้ และเป็นแค่ผู้หญิงสองคน ใจเริ่มปอดแล้วสิ... เราขับรถวนไปวนมาในภูเขา ประมาณสองชั่วโมง ตอนเริ่มไต่เขาสูงเรื่อยๆ

ฉันไม่ชอบความสูง และแม่บ้านของฉันก็ยังขับรถไม่เก่ง

ฉันเลยบอกให้เธอหยุด เราเข้าไปในร้านอาหารชนบท เพราะสามทุ่มกว่าแล้ว เริ่มมืด

มือถือไม่มีสัญญาณแล้ว... ฉันต้องแก้ปัญหาเอง

เพราะ...เพราะ ....เพราะ

ฉันรู้แล้วว่า

ปัญหามันเกิดจาก ฉันบอกให้เธอไปซาลบวร์ก

แต่เธอใส่ชื่อ Saltburg ในนาวิเกเตอร์ไม่เจอ (เพราะสะกดผิด จริงๆ ต้อง Salzburg)

จึงบอกให้สต๊าฟชายอีกคนหนึ่งที่ทำงานที่บ้านช่วย

เขาเลยใส่ชื่อ Starburg เข้าไป แล้วเธอก็พาฉันมาที่นี่อย่าง....ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไงงง

ฉันถามว่าทำไมใส่สตาร์บวร์ก ฉันไม่ได้ต้องการมาที่นี่สักหน่อย

เธอบอกว่า นึกว่ามันอยู่ใกล้กัน

.... ฉัน :!!!!!!!

มันคนละทิศเลย นี่เรากำลังลงใต้ของออสเตรีย เกือบถึงอิตาลีแล้ว เมืองที่ในหนังสือหน้าต่างโลกบอกว่า "นอกจากคนออสเตรียแล้ว ก็ไม่มีใครรู้จักหรือมาที่นี่!"

เริ่มจะสี่ทุ่มแล้ว มืดในหุบเขา ชักชอบกล ฉันคิดว่าเราต้องหาที่นอน แม้จะเป็นบ้านฟาร์มก็ตาม ว่าแล้ว เคืองอยู่เลย เซ็งวุ้ย นั่งเกือบเก้าชั่วโมงงงง!!! 

ฉันตรงเข้าไปในบ้านฟาร์มแห่งหนึ่ง โชคดีที่ข้างในเป็นร้านอาหาร เราถลาเข้าไป แล้วถามว่า ที่นี่ที่ไหน เมื่อคนท้องถิ่น ที่พูดอังกฤษไม่ได้ พยายามชี้จุดให้เราดูในแผนที่ เราก็พบว่า เราอยู่ไกลจากซาลบวร์กอยู่คนละทิศเลย โต๊ะนี้ยิ้มให้ฉันตลอดเวลา เหมือนไม่เคยเห็นคนเอเชี่ยน เขาเป็นคนท้องถิ่นที่ใจดี ถามว่า ฉันอายุประมาณยี่สิบใช่ไหม พอฉันบอกว่า สามสิบสอง เขาอึ้งไปเลย

...ปกติ ฉันจะชอบ เมื่อถูกฝรั่งถามเรื่องอายุ แต่ตอนนี้ไม่...

เราได้อยู่ในบ้านแบบชนบทที่ทุกคน เข้ามาพูดทักทายกับเรา เจ้าของร้าน เสนอห้องพักของเขาให้เรานอน แต่เมื่อฉันขึ้นไปดู ก็ไม่! ดีกว่า เพราะเจ้าของร้าน มีการเข้ามากอด แต่หอมแก้มด้วย (หอมกัจก้านะ ส่วนฉันไหวตัวทัน) แถมตัวยังมีกลิ่นเหล้าหึ่งง โชคดีที่อีกโต๊ะนึง ช่วยโทรไปหาโรงแรมให้เรา แต่บอกว่าเต็ม เขาเลยบอกว่า จะช่วยขับรถพาไปดูที่อินน์แห่งหนึ่ง

ในความมืด คนท้องถิ่นที่อารีย์ ขับรถนำเราลงเขาไปหาที่พัก แล้วเราก็ได้พักห้องนี้ เป็นอินน์ในเมืองเล็กๆ และนี่เป็นห้องพักที่ดีที่สุดของเมือง ราคา ๔๔ ยูโร 

เราจึงได้นอนตอนเกือบห้าทุ่ม สิ่งที่ฉันเรียนรู้วันนี้...จากมาเร็ก "สต๊าฟวัยรุ่น มีแรงล้นเหลือ และกระตือรือล้นที่จะทำสิ่งต่างๆ แต่เราต้องคอยควบคุม อย่าปล่อยให้เขาทำอะไรๆ เอง เขาจะต่างจากสต๊าฟที่แก่และเชี่ยวประสบการณ์ที่ทำอะไร ๆ เป็น แต่มักจะหาวิธีทำแบบง่ายๆ จนบางครั้งก็มักง่าย เพราะขี้เกียจ และเหลี่ยมเยอะ สต๊าฟวัยรุ่น ทำไม่เป็น แต่พยายามจะทำอย่างเต็มที่ ถ้าเราต้องการสต๊าฟที่แอคทีฟ ก็ต้องพยายามควบคุม อย่าปล่อยให้เขาทำเอง คิดเอง เพราะโอกาสพลาดมีสูง"

อ่ะนะ จะไปซาลบวร์ก แต่พาไปสตาร์บวร์ก

คิดได้ไง!!! 

Text by Netnapa Janeckova